มูลนิธิชีวิตพัฒนา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นผลงานต่อเนื่องจากการรวมพลังของคณะข้าราชการผู้ใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อประเทศชาติมาแล้วหลายสิบปี ร่วมกับผู้ที่อยู่ในวงการธุรกิจที่มีชื่อเสียงในด้านการทำประโยชน์เพื่อส่วน รวม โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยประชาชนผู้ต้องการโอกาสปรับปรุงตนเองใหม่ ให้มีคุุณภาพชีวิตที่ดีเท่าเทียมกับผู้ที่อยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย โดยวัตถุประสงค์หลักจะมุ่งส่งเสริมสุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจ ความสมดุลทางวัฒนธรรมและสังคม ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ ๕๐ ปีขึ้นไป
ผู้ริเริ่มงานดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นแพทย์อาสารุ่นแรก ๆ และผู้ปฏิบัติงานในหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอสว.) ตั้งแต่เริ่มแรก (พ.ศ. ๒๕๑๓) และได้ร่วมในกิจกรรมสาธารณกุศลต่าง ๆ นอกจากงานประจำ โดยเป็นกรรมการ เป็นผู้บริหาร ในสมาคมและมูลนิธิ ในสมเด็จพระราชูปถัมภ์พระศรีนครินทราบรมราชชนนี และในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้งนี้บรรดาคณะแพทย์และผู้ทรงคุณวุฒิ ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธา ที่จะช่วยเหลือส่วนรวมดังกล่าว ได้ผนึกกำลังร่วมงานกันเป็นครั้งแรก ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังรณรงค์ลดอัตราเพิ่มของประชากรในระหว่างปี ๒๕๑๗-๒๕๓๐ โดยได้ทำงานภาคเอกชนสาธารณกุศลร่วมรณรงค์พร้อมกับภาครัฐ ในการดำเนินงานวางแผนครอบครัวเป็นหลัก กล่าวคือเป็นกรรมการ และผู้ปฏิบัติงานในองค์กรวางแผนครอบครัว เช่น สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน, สมาคมอนามัยการเจริญพันธุ์ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแห่งประเทศไทย (สมาคมทำหมันแห่งประเทศไทย) และโดยเฉพาะสมาคมส่งเสริมการผสมผสานกิจกรรมพัฒนาประชากร และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ได้สนับสนุนให้โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเอกชนทำการวางแผนครอบครัวลดอัตราเพิ่มประชากรได้ถึง ๒๐% ของเป้าหมายตามโครงการวางแผนครอบครัวแห่งชาติที่วางไว้ในช่วงเวลานั้น ทั้งนี้นับว่าผลสำเร็จที่เป็นความพยายาม ดังกล่าวได้มีส่วนส่งเสริมให้ประเทศไทย มีจำนวนประชากรอยู่ในเกณฑ์พอเหมาะอยู่ในขณะนี้เมื่อปัญหาวิกฤตประชากรของ ประเทศได้ผ่านไปแล้ว ปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นตามมาในปัจจุบันและอนาคต ก็คือการที่ประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริการทางสาธารณสุขได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุ (๖๐ ปี ขึ้นไป) เพิ่มขึ้น ถึง ๖๐ % ต่อปีซึ่งสูงเป็น ๔ เท่าของอัตราเพิ่มของประชากรทั่วประเทศ (๑.๕% ต่อปี) ในช่วงเวลาเดียวกัน ดังนั้นคณะบุคคลกลุ่มนี้จึงได้ร่วมกันพัฒนาแนวความคิดที่จะสร้างเสริมผู้สูง อายุให้มีคุณภาพทั้งกายและใจ เพื่อประโยชน์ต่อครอบครัวชุมชนและประเทศชาติ ในการช่วยแก้ไขปัญหาสังคมที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จึงได้จัดตั้งมูลนิธิชีวิตพัฒนาฯ ขึ้นมาเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ทรงเห็นความสำคัญและทรงรับไว้ในพระอุปถัมภ์ เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๓๙